- สมองได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งสมอง ทำให้เส้นประสาทได้รับความเสียหายและขาดเลือดหล่อเลี้ยง เกิดอาการอัมพาตบริเวณใบหน้าข้างเดียวกับที่ได้รับความเสียหาย
- เส้นประสาทได้รับความเสียหายอย่างฉับพลันจากไวรัส ซึ่งสามารถเกิดได้จากผู้ที่เคยมีประวัติโรคที่ติดเชื้อไวรัสหรือโรคภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง เช่น โรคงูสวัด โรคเริม โรคHIV เป็นต้น จะมีอาการชาบริเวณใบหน้าข้างตรงข้ามกับที่ได้รับความเสียหาย เราเรียกโรคนี้ว่า โรคอัมพาตใบหน้าครึ่งซีก (bell's palsy)
- มีโรคประจำตัว เช่น ไขมันในโลหิตสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
- มีความเครียดสูงในชีวิตประจำวัน
- การดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือเสพสารเสพติด
- ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคอัมพาตใบหน้า
ปัจจุบันโรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยา ทำกายภาพบำบัด หรือศาสตร์แพทย์ทางเลือกอย่างแพทย์แผนจีนก็สามารถรักษาอาการอัมพาตใบหน้าได้เช่นเดียวกัน โดยจะกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ามากขึ้น ทำให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
โรคอัมพาตใบหน้าควรรีบเข้ารับการรักษาหลังจากพบเจออาการ หากปล่อยให้มีอาการเรื้อรังอาจทำให้การรักษาใช้ระยะเวลานานและมีอาการหลงเหลือหายไม่สนิทในผู้ป่วยบางราย