“แพทย์จีนพันนิดา ธเนศอนันต์” แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านฝังเข็ม และยาสมุนไพรจีนจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหารให้ทุกคนได้ฟังกัน
ข้อแตกต่างของแพทย์ปัจจุบัน และแพทย์จีน
“การรักษาแพทย์ปัจจุบันมักจะใช้การตรวจโดยการส่องกล้อง สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคนี้เกิดจากการอักเสบ พร้อมมีกรดในกระเพาะที่เยอะ หรือน้อยเกินไป จากนั้นแพทย์แผนปัจจุบันจะจ่ายยาเคลือบกระเพาะอาหาร หรือยาลดกรดในกระเพาะ ในขณะที่แพทย์จีนจะมีการวินิจฉัยสาเหตุโรคที่กว้างกว่า เช่น หยิน หยาง ชี่ เลือดไม่เพียงพอหรือติดขัด ดังนั้น พอสาเหตุของโรคมีหลากหลาย การรักษาก็ต้องหลากหลายตามไปด้วย โดยเริ่มจากการจ่ายยาสมุนไพรเพื่อบำรุงแต่ละส่วนที่คนไข้อ่อนแอ ปรับระบบร่างกายให้สมดุล และในคนไข้บางรายอาจจะมีการฝังเข็ม และครอบแก้วเพื่อบำรุงให้ระบบภายในฟื้นตัวทั้งนี้ก็ต้องปรับพฤติกรรมคนไข้ควบคู่ไปด้วย เช่น ใครที่มีความเครียดก็ต้องหาเวลาผ่อนคลาย หรือปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติม ใครที่ไม่ค่อยกินข้าว หรือ กินไม่ตรงเวลา แพทย์ก็จะแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการกินเพื่อช่วยให้โรคหายได้ไวขึ้น”
เคสคนไข้ที่รักษายาก และเวลาที่ใช้ในการรักษาโรคกระเพาะอาหาร
“ส่วนมากแพทย์จีนสามารถรักษาคนไข้โรคกระเพาะได้ทุกราย แต่จะใช้เวลามากหรือน้อยก็ขึ้นกับระยะของโรคด้วย หากบางคนเริ่มปวดกระเพาะมาไม่นาน ก็จะใช้เวลารักษาอย่างน้อย 1 - 2 อาทิตย์ก็หายได้แล้ว แต่ถ้าหากมีอาการเรื้อรังมานานก็อาจต้องใช้เวลารักษาประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพคนไข้ด้วยว่าแข็งแรงไหม ต้องปรับพฤติกรรมให้เอื้อต่อการฟื้นตัวควบคู่ไปด้วยหรือเปล่า”
คติประจำใจการรักษาของแพทย์จีนพันนิดา
“หากเปรียบกระเพาะเหมือนบ่อน้ำที่สกปรก เราไปฆ่าเชื้อโรคเท่าไร น้ำก็ไม่หายสกปรกได้ง่าย ๆ แต่หากเรานำน้ำสกปรกออก และเปลี่ยนเป็นน้ำที่สะอาด บ่อน้ำนี้ก็จะกลับมาสุขภาพดี หากใครที่มีอาการเหมือนจะเป็นโรคกระเพาะ ต้องสังเกตตัวเองให้ดี และรีบรักษาให้ถูกวิธี แพทย์จีนที่นี่ยินดีต้อนรับทุกท่าน และหมอรับรองว่าทุกเคสหมอใช้ใจรักษา คนไข้ก็เหมือนคนในครอบครัว ต้องนึกถึงใจเขาใจเราเสมอ”
ศูนย์แพทย์จีนพุทธเมตตาถังหมิงแห่งเดียวในประเทศไทย ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลจีน
รักษาผู้ป่วยด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนเต็มรูปแบบ เช่น ฝังเข็ม ครอบแก้ว นวดทุยหนา กวาซา และสมุนไพรจีน อย่างครบวงจร คุณหมอแพทย์แผนจีนที่ศูนย์แพทย์มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กับเคสจริง ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน